เมื่อวานหลังเลือกงาน ผมได้ควบเจ้า ER6N ของผมไปพบเพื่อนที่ไม่เจอกันนาน ซึ่งล่าสุดได้ข่าวว่าได้ออก BB 4 สูบมือ 2 มาคัน
แต่ยังไม่ทราบว่าตัวไหน ดีเลยจะได้ลองเทสดูหวังว่าคงจะไม่ใช่ตัวพันหรือ 250 C.C. 4 สูบนะ เรานัดเจอกันในร้านฟ๊าตฟู๊ตในปั้มน.ม.แห่งหนึ่ง
พอเจอหน้ากันเหมือนหับได้เจอแฟนเก่าเลย Suzuki Inazuma 750 ผมเคยใช้อยู่ครั้งนึงนานมาแล้ว นานจนลืมฟิลลิ่งไปหมดแล้ว
ก่อนที่จะขายไปเพราะคาร์บิวรวน ซ่อมเสร็จไดช๊าทกลับบ้านเก่า ซ่อมเสร็จคาร์บิวรั่วอีก ก็เข้าใจว่ารถหลายปีแล้ว แต่ไม่ค่อยมีเวลาเหมือนตอนเรียน
เลยขายไปซื้อรถใหม่
หลังจากที่นั่งระรึกความหลังกันซักพักหลังทานข้าวเสร็จ ผมก็เรื่อมอยากเทสฟิลลิ่งละ จากที่ไม่เคยคิดจะเอามาเทียบกันเพราะคนละรุ่น คนละไซด์
พูดง่ายๆคนละสเปคเลย แต่ตั่งแต่มีข่าว CB650 ออกมาเลยอยากมาจับฟิลลิ่ง 4 สูบอีกครั้ง
ลองรถมันระลึกความหลังเลยซัก 2 ยูเทิร์น ยอมรับเลยว่ารถคันนี้เพื่อนมันได้มาสภาพดีจริงๆ เครื่องฟิต จูนนิ่งมาก ไม่เสียศูนย์ แต่เสียดายที่
เป็นInv พอขับเก็บฟิลลิ่งเสร็จก็มาขับ ER6N เราต่อในระยะเท่ากันทางเดียวกัน เพื่อเก็บฟิลลิ่งโค้งเดียวกัน ถนนระยะเดียวกัน เทียบกันมันทุกอย่าง
แล้วก็มาลองรถมันอีกรอบเพื่อความชัวร์
ก่อนอื่นผมขอบอกเอาไว้ก่อนเลย ว่าอย่าเอาตัวนี้มาเป็นมาตราฐานเทียบกับ CB650 เพราะ
- Inazuma 750 ตัวนี้ไม่รู้ทางซูยัดอะไรมาบ้าง รู้แต่สามารถเกาะตูดตัวพันแน็กเก็ตได้แบบไม่เหนื่อย (ขึ้นชื่อว่าซูไม่ต้องห่วงเรื่องความดิบ)
- C.C. ที่มากกว่า CB650 อยู่ 100 นึง ฟังดูน้อย แต่มันมีผลมาก และเมื่อมันมาอยู่ในมือซูผลยิ่งทวีคูณ
- รถอายุมากนักหลัก 10 ปี ย่อมมีการเสื่อมตามวัย
- เทคโนโลยีแม้สู้สมัยนี้ไม่ได้แต่รถเป็นคาร์บิว ความดิบเลยกระฉูดไปไกลโข (หัวฉีดก็กระฉูดได้แต่รถบ้านเขาไม่เซตให้กระฉูดมาจากโรงงานหรอก)
- สุดท้าย ที่ตัวนี้เหมือนกับ CB650 คือเป็น 4 สูบเท่านั้นเอง
มาพูดถึงฟิลลิ่งที่ผมจับได้คร่าวๆ
การออกตัว อัตตราเร่ง
- ER6N กระชากตั่งแต่รอบต้น ตั้งแต่ออกตัว แค่ลากไม่ต้องกระชากครัชร์ล้อก็จะยกเอาต้องมีผ่อนหน่อยๆกลัวเงิบ และจะไปแผ่วๆตรง 170-180+
แต่ก็ยังไหลไปได้จนถึง 210+
- Inazuma 750 ออกตัวกระชากน้อยกว่า แต่พอลากรอบไปแถว 8000-9000 เท่านั้น ดึงจะหน้าลอย ต้องโถมตัวอกติดถังกันเลย ถ้ากดโหดคือไป
สับเกียร์เล่นที่รอบสูง มันจะดึงตลอดตั้งแต่ 40 - 60 ไปจนถึงประมาณ 190-200 แล้วเริ่มแผ่วเล็กน้อย แต่ก็ยังดึงต่อไปได้ 240+
ตรงนี้ผมว่าแล้วแต่คนชอบถ้าเป้นผมขับในเมืองเลือก ER ถ้าออกนอกเมืองเอามันส์ผมเลือก Inazuma 750 (โดยคหสต.ผมคิดว่าว่า CB650 มัน
จะดึงแบบ 40 - 60 ไปจนถึงประมาณ 180-190 แล้วเริ่มแผ่วเล็กน้อย แต่ก็ยังดึงต่อไปได้ 210+)
กระเล่นโค้ง ในโค้งเดียวกัน เป็นโค้งประมาณ 70 องศา ถนนเอียงรับโค้งหน่อยนึง
- ER6N ผ่อน เข้าโค้ง ออกนอกโค้ง อัดต่อ
- Inazuma 750 ผ่อน เข้าโค้ง ลดเกียร์ให้สัมพันธ์กับความเร็ว ออกนอกโค้ง อัดต่อ
ตรงนี้ผมให้ ER สี่สูบถ้าความเร็วไม่สัมพันธ์ กับรอบเครื่อง มีกลิ้งในโค้งเอาง่ายๆ และยังเสียจังหวะไล่เกียร์ใหม่ ในขณะที่ ER พอออกโค้ง
กดลากต่อได้เลย
เสียไม่ต้องอธิบายมากมายรู้กันอยู่แล้ว หวานหูกับดุดัน แต่ในท้องถนน ถ้าอยากจะให้คันหน้ารู้ว่าเรามาข้างหลัง ให้เลือก ER
ถ้าอยากไปแสดงศักดาเมื่อแซงไปแล้วให้เลือก 4 สูบ
ค่าบำรุงรักษา อันนี้ไม่ต้องถามมัน ผมตอบเองได้เลยจากที่เคยใช้ เกือบทุกรายที่เกี่ยวกับเครื่องยกเว้นเกียร์ 4 สูบ สูงกว่า 2 สูบแน่นอน
สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับคนใช้ละครับ ว่าต้องการสมรถนะทางด้านไหน เลือกรถให้เข้ากับตัวแปรคงที่ เช่น เส้นทางเดินทาง การจราจร ระยะทาง
ที่ใช้บ่อยๆ โดยส่วนตัวผมว่า 2 สูบลูกโต ค่อนข้างจะครอบคุมการใช้งานในเมืองไทยมากกว่า โดยได้ทั้งทางใกล้ทางไกล เพราะถนนบ้านเรา
หาที่อัด 170 180 + ยากเหลือเกิน ยังไม่นับทราย เ-๊ก หมา กะลา เด็ก ของสแลงชาว 2 ล้ออีก 4 สูบนั้น มันจะไปแสดงศักกยะภาพที่ฉีก
2 สูบได้ชัดก็ตอนทางตรง ถนนดี โล่ง ไร้สิ่งมีชีวิตที่คิดสั้น ซึ่งหาได้ยากในประเทศไทย
ปล. ผมไม่รู้ว่าทางฮอนด้าจะผลิตรถออกมาฟิลลิ่งแบบไหนเพราะ 4 สูบ ก็มีหลายฟิลลิ่ง ถ้าผลิตออกมาแนวซูผมบอกได้เลยว่ามันส์ทุกครั้งที่ควบมัน
แต่โดยส่วนตัวผมว่าทางฮอนด้าผลิตมาแบบเรียบร้อยตามรุ่นน้อง CB400 ที่เทคไม่ว่าจะเปิดซักกี่เทคตั่งแต่เทค 1 ยัน Revo ก็ยังโดน Bandit
ไล่ฆ่าตลอด ยังไม่นับคลาส 400 เงียบพังดังวิ่งของยามาฮ่า ที่ผลัดกันแทงคนละดอก 2 ดอก
เทสฟิลลิ่ง Big Bike 2 สูบกับ 4 สูบ ใน C.C. ใกล้เคียงกัน (คหสต. โปรดใช้จักรยานในการรับฟัง)
แต่ยังไม่ทราบว่าตัวไหน ดีเลยจะได้ลองเทสดูหวังว่าคงจะไม่ใช่ตัวพันหรือ 250 C.C. 4 สูบนะ เรานัดเจอกันในร้านฟ๊าตฟู๊ตในปั้มน.ม.แห่งหนึ่ง
พอเจอหน้ากันเหมือนหับได้เจอแฟนเก่าเลย Suzuki Inazuma 750 ผมเคยใช้อยู่ครั้งนึงนานมาแล้ว นานจนลืมฟิลลิ่งไปหมดแล้ว
ก่อนที่จะขายไปเพราะคาร์บิวรวน ซ่อมเสร็จไดช๊าทกลับบ้านเก่า ซ่อมเสร็จคาร์บิวรั่วอีก ก็เข้าใจว่ารถหลายปีแล้ว แต่ไม่ค่อยมีเวลาเหมือนตอนเรียน
เลยขายไปซื้อรถใหม่
หลังจากที่นั่งระรึกความหลังกันซักพักหลังทานข้าวเสร็จ ผมก็เรื่อมอยากเทสฟิลลิ่งละ จากที่ไม่เคยคิดจะเอามาเทียบกันเพราะคนละรุ่น คนละไซด์
พูดง่ายๆคนละสเปคเลย แต่ตั่งแต่มีข่าว CB650 ออกมาเลยอยากมาจับฟิลลิ่ง 4 สูบอีกครั้ง
ลองรถมันระลึกความหลังเลยซัก 2 ยูเทิร์น ยอมรับเลยว่ารถคันนี้เพื่อนมันได้มาสภาพดีจริงๆ เครื่องฟิต จูนนิ่งมาก ไม่เสียศูนย์ แต่เสียดายที่
เป็นInv พอขับเก็บฟิลลิ่งเสร็จก็มาขับ ER6N เราต่อในระยะเท่ากันทางเดียวกัน เพื่อเก็บฟิลลิ่งโค้งเดียวกัน ถนนระยะเดียวกัน เทียบกันมันทุกอย่าง
แล้วก็มาลองรถมันอีกรอบเพื่อความชัวร์
ก่อนอื่นผมขอบอกเอาไว้ก่อนเลย ว่าอย่าเอาตัวนี้มาเป็นมาตราฐานเทียบกับ CB650 เพราะ
- Inazuma 750 ตัวนี้ไม่รู้ทางซูยัดอะไรมาบ้าง รู้แต่สามารถเกาะตูดตัวพันแน็กเก็ตได้แบบไม่เหนื่อย (ขึ้นชื่อว่าซูไม่ต้องห่วงเรื่องความดิบ)
- C.C. ที่มากกว่า CB650 อยู่ 100 นึง ฟังดูน้อย แต่มันมีผลมาก และเมื่อมันมาอยู่ในมือซูผลยิ่งทวีคูณ
- รถอายุมากนักหลัก 10 ปี ย่อมมีการเสื่อมตามวัย
- เทคโนโลยีแม้สู้สมัยนี้ไม่ได้แต่รถเป็นคาร์บิว ความดิบเลยกระฉูดไปไกลโข (หัวฉีดก็กระฉูดได้แต่รถบ้านเขาไม่เซตให้กระฉูดมาจากโรงงานหรอก)
- สุดท้าย ที่ตัวนี้เหมือนกับ CB650 คือเป็น 4 สูบเท่านั้นเอง
มาพูดถึงฟิลลิ่งที่ผมจับได้คร่าวๆ
การออกตัว อัตตราเร่ง
- ER6N กระชากตั่งแต่รอบต้น ตั้งแต่ออกตัว แค่ลากไม่ต้องกระชากครัชร์ล้อก็จะยกเอาต้องมีผ่อนหน่อยๆกลัวเงิบ และจะไปแผ่วๆตรง 170-180+
แต่ก็ยังไหลไปได้จนถึง 210+
- Inazuma 750 ออกตัวกระชากน้อยกว่า แต่พอลากรอบไปแถว 8000-9000 เท่านั้น ดึงจะหน้าลอย ต้องโถมตัวอกติดถังกันเลย ถ้ากดโหดคือไป
สับเกียร์เล่นที่รอบสูง มันจะดึงตลอดตั้งแต่ 40 - 60 ไปจนถึงประมาณ 190-200 แล้วเริ่มแผ่วเล็กน้อย แต่ก็ยังดึงต่อไปได้ 240+
ตรงนี้ผมว่าแล้วแต่คนชอบถ้าเป้นผมขับในเมืองเลือก ER ถ้าออกนอกเมืองเอามันส์ผมเลือก Inazuma 750 (โดยคหสต.ผมคิดว่าว่า CB650 มัน
จะดึงแบบ 40 - 60 ไปจนถึงประมาณ 180-190 แล้วเริ่มแผ่วเล็กน้อย แต่ก็ยังดึงต่อไปได้ 210+)
กระเล่นโค้ง ในโค้งเดียวกัน เป็นโค้งประมาณ 70 องศา ถนนเอียงรับโค้งหน่อยนึง
- ER6N ผ่อน เข้าโค้ง ออกนอกโค้ง อัดต่อ
- Inazuma 750 ผ่อน เข้าโค้ง ลดเกียร์ให้สัมพันธ์กับความเร็ว ออกนอกโค้ง อัดต่อ
ตรงนี้ผมให้ ER สี่สูบถ้าความเร็วไม่สัมพันธ์ กับรอบเครื่อง มีกลิ้งในโค้งเอาง่ายๆ และยังเสียจังหวะไล่เกียร์ใหม่ ในขณะที่ ER พอออกโค้ง
กดลากต่อได้เลย
เสียไม่ต้องอธิบายมากมายรู้กันอยู่แล้ว หวานหูกับดุดัน แต่ในท้องถนน ถ้าอยากจะให้คันหน้ารู้ว่าเรามาข้างหลัง ให้เลือก ER
ถ้าอยากไปแสดงศักดาเมื่อแซงไปแล้วให้เลือก 4 สูบ
ค่าบำรุงรักษา อันนี้ไม่ต้องถามมัน ผมตอบเองได้เลยจากที่เคยใช้ เกือบทุกรายที่เกี่ยวกับเครื่องยกเว้นเกียร์ 4 สูบ สูงกว่า 2 สูบแน่นอน
สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับคนใช้ละครับ ว่าต้องการสมรถนะทางด้านไหน เลือกรถให้เข้ากับตัวแปรคงที่ เช่น เส้นทางเดินทาง การจราจร ระยะทาง
ที่ใช้บ่อยๆ โดยส่วนตัวผมว่า 2 สูบลูกโต ค่อนข้างจะครอบคุมการใช้งานในเมืองไทยมากกว่า โดยได้ทั้งทางใกล้ทางไกล เพราะถนนบ้านเรา
หาที่อัด 170 180 + ยากเหลือเกิน ยังไม่นับทราย เ-๊ก หมา กะลา เด็ก ของสแลงชาว 2 ล้ออีก 4 สูบนั้น มันจะไปแสดงศักกยะภาพที่ฉีก
2 สูบได้ชัดก็ตอนทางตรง ถนนดี โล่ง ไร้สิ่งมีชีวิตที่คิดสั้น ซึ่งหาได้ยากในประเทศไทย
ปล. ผมไม่รู้ว่าทางฮอนด้าจะผลิตรถออกมาฟิลลิ่งแบบไหนเพราะ 4 สูบ ก็มีหลายฟิลลิ่ง ถ้าผลิตออกมาแนวซูผมบอกได้เลยว่ามันส์ทุกครั้งที่ควบมัน
แต่โดยส่วนตัวผมว่าทางฮอนด้าผลิตมาแบบเรียบร้อยตามรุ่นน้อง CB400 ที่เทคไม่ว่าจะเปิดซักกี่เทคตั่งแต่เทค 1 ยัน Revo ก็ยังโดน Bandit
ไล่ฆ่าตลอด ยังไม่นับคลาส 400 เงียบพังดังวิ่งของยามาฮ่า ที่ผลัดกันแทงคนละดอก 2 ดอก